จุดสีฟ้าจาง ๆ ในจักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุด

เขียนโดย: pruet, กุมภาพันธ์ 16th, 2013

ในหัวข้อ: บทความ

แทก: , ,

ไม่มีความเห็น



ท่านสามารถนำบทความใน WeRead ไปเผยแพร่ เผยแพร่ ดัดแปลง ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่ต้องทำลิงค์กลับมาที่บทความต้นฉบับเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมที่คำประกาศสิทธิ์


14 กุมภาพันธ์ถือว่าเป็นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก และในวันนี้ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง แต่คงไม่เล่าว่าวาเลนไทน์มันมีที่มาอย่างไร เพราะคุณคงเคยได้ยินมาแล้วหรือหาอ่านได้ไม่ยาก แต่เรื่องที่ผมจะเล่า มันเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบสามปีก่อน ณ ที่แห่งหนึ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ห่างไกลจากโลกของเราไปหกพันล้านกิโลเมตร สิ่งประดิษฐ์อันหนึ่งของมนุษย์ได้หมุนตัว เพื่อให้กล้องถ่ายภาพได้หันย้อนกลับไปยังเส้นทางที่มันได้เดินทางผ่านมาเพื่อถ่ายภาพจุดเริ่มต้นของการเดินทางของมัน และนี่คือภาพที่ยานอวกาศวอยเอเจอร์ 1 (Voyager 1) ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ 1990

Pale_Blue_Dot ในภาพนี้ ถ้าคุณดูผ่าน ๆ อาจจะเห็นเพียงแถบสีสามสี่แถบ แต่ถ้าคุณมองให้ดีคุณจะเห็นจุดสีฟ้าจางเล็ก ๆ ตรงแถบสีเหลืองขวามือสุด จุดนี้มีขนาดไม่ถึงหนึ่งพิเซล (หน่วยวัดความละเอียดภาพ) เมื่อเทียบกับรูปภาพทั้งหมด จุดสีฟ้านั้นคือโลกของเราที่ถ่ายจากยานอวกาศวอยเอเจอร์ 1 ที่ระยะห่างหกพันล้านกิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็นการเกิดขึ้นและล่มสลายของอณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ การพ่ายแพ้สงครามที่วอเตอร์ลูของนโปเลียน หรือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง ล้วนเกิดขึ้นที่จุดสีฟ้าจาง ๆ นี้ทั้งนั้น

ภาพถ่ายนี้เป็นความคิดของ คาร์ล ซากัน (Carl Sagan) นักวิทยศาสตร์ด้านอวกาศคนสำคัญคนหนึ่งของโลกซึ่งในขณะนั้นเขาเป็นที่ปรึกษาของ NASA ได้เสนอว่าควรหันกล้องของยานวอยเอเจอร์ 1 ที่กำลังเดินทางผ่านดาวเสาร์ให้หันกลับมาถ่ายภาพโลก ในตอนแรก วิศวกรของ NASA ก็ไม่เห็นด้วย เพราะกลัวว่าแสงอาทิตย์จะทำลายกล้องถ่ายภาพบนยาน หรือถ้าไม่เช่นนั้น ก็คงจะถ่ายไม่ได้เลย เพราะด้วยระยะห่างขนาดนั้นโลกจะมีขนาดเล็กมาก  หลังจากผลักดันอยู่เกือบสิบปี ในที่สุด NASA ก็เห็นด้วยและในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คศ. 1990 ยานวอยเอเจอร์ 1 ก็ได้ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ภาพนี้ ภาพของโลกที่ถ่ายจากที่ไกลที่สุดที่มนุษย์เคยถ่ายมา ภาพนี้แสดงถึงความเล็กจ้อยของโลกเมื่อเทียบกับอวกาศกันกว้างใหญ่ แต่นี่คือพื้นที่ทั้งหมดที่มนุษย์โลกมี มนุษย์โลกทุกคนเกิดบนพื้นที่นี้ และมนุษย์โลกทุกคนต่างตายบนพื้นที่นี้

ซากันนอกจากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์แล้ว เขายังเป็นนักเขียนบทความและนิยายวิทยาศาสตร์อีกด้วย ในหนังสือเรื่อง The Cold and the Dark: The World After Nuclear War ซากันและนักเขียนท่านอื่น ๆ ได้อธิบายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น กล่าวโดยย่อคือฝุ่นผงที่เกิดการระเบิดจะปกคลุมท้องฟ้าทั้งโลก ทำให้แสงอาทิตย์ไม่สามารถผ่านลงมายังชั้นบรรยากาศของโลกได้ อุณหภูมิของโลกจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว มนุษย์โลกส่วนใหญ่ รวมถึงสัตว์และพืชจะไม่สามารถอยู่รอดได้ การจบสิ้นของวัฒนธรรมที่มนุษย์สร้างสมมาทั้งหมดอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับการสิ้นเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

ในฐานะนักวิทยศาสตร์ด้านอวกาศ มักจะมีคนถามซากันเสมอ ๆ เรื่องมนุษย์ต่างดาว และเขามักจะให้ความเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า เขาไม่คิดว่าเรื่องการลักพาตัวของมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่เขาเชื่อว่าในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ที่มีดวงดาวอยู่หลายพันล้านดวง (Billions & Billions) มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่ ในหนังสือเรื่อง Contact นวนิยายที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของเขา เขาได้ตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาและมนุษย์ต่างดาว และความพร้อมของมนุษย์ที่จะเผชิญหน้าหรือจัดการกับสิ่งต่าง ๆ เมื่อได้พบกับมนุษย์ต่างดาว นอกจากนั้นเขายังมีส่วนร่วมในโครงการ SETI (Search for Extraterrestrial Intelligence) ที่เป็นโครงการค้นหาสิ่งมีชีวิตที่มีความฉลาดในต่างดาวอีกด้วย

ในหนังสือเรื่อง Pale Blue Dot: A Vision of the Human Future in Space ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับภาพถ่ายนี่ ซากันกล่าวว่า

To me, it underscores our responsibility to deal more kindly with one another, and to preserve and cherish the pale blue dot, the only home we’ve ever known.

สำหรับผม มันเป็นการเน้นยำความรับผิดชอบของเราที่จะต้องเกี่ยวพันกันผู้อื่นด้วยความอ่อนโยนมากขึ้น และจะต้องรักษาและฟูมฟักจุดสีฟ้าจาง ๆ นี้ไว้ เพราะนี้เป็นบ้านหลังเดียวที่เรารู้จัก

แนะนำหนังสือ

The Memory Keeper’s Daughter เป็นผลงานชิ้นแรก และเป็นผลงานสร้างชื่อให้แก่ Kim Edwards ชนิดถล่มทลายไปเลยค่ะ

คนที่โกหกหลอกลวงไม่ว่าจะด้วยความหวังดีหรือว่าเอาตัวรอดนั้น จะต้องแบกความรู้สึกผิดเอาไว้ตลอด
ทันทีที่เริ่มโกหก ก็เหมือนเริ่มปลูกเมล็ดแห่งความลับที่จะเติบโตเป็นต้นลงทัณท์ตามหลอกหลอนคนปลูกไปตลอด

เรื่องทั้งหมดในหมวด

เทคนิคและเคล็ดลับ

ก่อนอื่น ต้องบอกว่า การ์ตูนในที่นี้เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่แปลเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ใครที่อยากอ่านการ์ตูนภาษาไทย ก็ข้ามไปได้เลยครับ 🙂

นักอ่านการ์ตูนหลาย ๆ คน คงรู้จักเว็บไซท์ onemanga.com ที่เป็นเว็บรวมการ์ตูนที่แปลโดยอาสาสมัคร ซึ่งก็มีการ์ตูนดัง ๆ เกือบจะทุกเรื่องเลยทีเดียว

เรื่องทั้งหมดในหมวด